Online Banking
ลูกค้าบุคคล
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอฟันด์
ธนาคารกรุงเทพ จัดมาตรการด่วนพักชำระหนี้ 2 เดือน ช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ
15 กรกฎาคม 2564
เปิดช่องทางลงทะเบียนเพิ่มผ่านเว็บไซด์ และโมบายแบงก์กิ้ง ตั้งแต่ 19 กรกฎาคมนี้
ธนาคารกรุงเทพ จัดมาตรการด่วนตามแนวทางของธปท. พักชำระหนี้ 2 เดือน ช่วยลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และลูกค้ารายย่อย ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ เปิดหลากหลายช่องทางติดต่อ โดยเฉพาะการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.bangkokbank.com และโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ถึง 15 ส.ค. 64 สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือก่อนหน้ายังคงพร้อมเช่นเดิม จนถึง 31 ธ.ค. 64 ย้ำจุดยืน “เพื่อนคู่คิด” ดูแลลูกค้าผ่านสถานการณ์ยากลำบาก
นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดกรอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ ธนาคารจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม เพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่ลูกค้า ด้วยการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยสามารถลงทะเบียนเข้าขอรับมาตรการดังกล่าวผ่านหลากหลายช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ถึง 15 ส.ค. 64
“ลูกค้าที่สามารถเข้าร่วมมาตรการนี้ ได้แก่ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรค โดยพื้นที่ควบคุมที่มีความเสี่ยงสูงสุด 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสงขลา ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สำนักธุรกิจและสาขาธนาคารทั่วประเทศ และบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเสี่ยง สามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ www.bangkokbank.com และโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ”
สำหรับลูกค้าที่ยังสามารถเปิดดำเนินกิจการ แต่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ที่ลดลงจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐ ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอความช่วยเหลือตามความจำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกค้าอย่างเต็มที่
นายสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ออกมาก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพยังคงดำเนินมาตรการที่สามารถรองรับลูกค้ากลุ่มต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม และได้ขยายระยะเวลาไปจนถึง 31 ธ.ค. 64 ทั้งนี้ ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและทันเวลา ทุกครั้งเมื่อมีการออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มเติม ก็จะเข้าไปศึกษาผลกระทบและเตรียมแนวทางหรือมาตรการช่วยเหลือให้คลอบคลุมเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารยังมีมาตรการปกติที่เตรียมพร้อมเข้ามาช่วยดูแลหลังจากผ่านช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้ลูกค้าสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปได้ ซึ่งธนาคารพร้อมเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่อยู่เคียงข้างและก้าวไปด้วยกันในทุกสถานการณ์
สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือ และติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สำนักธุรกิจและสาขาธนาคารทั่วประเทศ และบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเสี่ยง สามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ https://www.bangkokbank.com/COVID19-Update หรือโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ขณะเดียวกันลูกค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงหรือมีความสามารถผ่อนชำระสินเชื่อได้เช่นเดิม ยังคงสามารถใช้บริการและชำระสินเชื่อต่างๆ ได้ตามปกติ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่
นโยบายการใช้คุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ธนาคารใช้งานคุกกี้ประเภทจำเป็นถาวรเพื่อให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานเว็บไซต์ของธนาคารได้อย่างปลอดภัยและคุกกี้ประเภทการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อท่านกลับเข้ามาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง นอกจากนี้ ธนาคารยังใช้คุกกี้ประเภทอื่น ได้แก่ คุกกี้ประเภทการวิเคราะห์ และคุกกี้ประเภทการโฆษณา ซึ่งหากท่านปิดการใช้งานอาจกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้ ดังนี้
ธนาคารใช้คุกกี้ประเภทนี้เพื่อวิเคราะห์หรือวัดผลการทำงานของเว็บไซต์ และเข้าใจถึงความสนใจของท่าน เพื่อนำไปบริหารจัดการ ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ธนาคารไม่ได้ปรับปรุงหรือพัฒนาเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับสถิติการใช้งานเว็บไซต์ที่แท้จริง
ธนาคารใช้คุกกี้ประเภทนี้เพื่อนำเสนอข้อมูลหรือโฆษณาให้เหมาะสมตรงตามความสนใจและความชื่นชอบของท่าน การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ท่านไม่ได้รับข้อมูลที่เหมาะสมหรือตรงกับความต้องการของท่าน
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) ให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ธนาคารจึงจัดทำหนังสือนี้ เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารจะนำมาเก็บรวบรวมและใช้ ประกอบด้วย
1.1.ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนท่านได้ ไม่ว่าทางตรง หรือ ทางอ้อม
(1) ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด ส่วนสูง น้ำหนัก ข้อมูลบนบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวพนักงาน ข้อมูลบนบัตรประกันสังคม เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลบนทะเบียนบ้าน รูปถ่ายใบหน้า สัญชาติ ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าออกประเทศ ประวัติการศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน สถานภาพ สมาชิกภาพ ใบอนุญาตต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตทำงาน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ใบอนุญาตในการประกอบอาชีพ
(2) ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและการทำธุรกรรม ได้แก่ รายได้ หมายเลขบัญชีเงินฝากที่ใช้สำหรับรับค่าจ้าง หมายเลขบัตรเครดิต ข้อมูลเกี่ยวกับการทำประกันผ่านธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน ความสามารถในการลงทุน ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำหรือถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด การถูกดำเนินคดี การถูกบังคับคดี ข้อมูลเกี่ยวกับการขอใช้สินเชื่อสวัสดิการต่าง ๆ การวิเคราะห์ความเสี่ยงและความสามารถในการชำระหนี้ ข้อมูลการชำระหนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน ข้อมูลเกี่ยวกับการหักบัญชีสำหรับรับค่าจ้างเพื่อชำระหนี้ตามคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลหรือหน่วยงานของรัฐ ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกหรือการถือหน่วยลงทุนหรือการดำเนินการใด ๆ กับกองทุน สมาคม องค์กร ชมรม มูลนิธิ
(3) ข้อมูลติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail Address) หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลผู้ติดต่อที่ท่านให้ไว้กับธนาคาร ชื่อหรือบัญชีสำหรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันหรือช่องทางดิจิทัล เช่น ไลน์ กูเกิล เฟซบุ๊ก ยูทูป ทวิตเตอร์ วอทส์-แอป หรือวีแชท
(4) ข้อมูลการปฏิบัติงานและการใช้งาน ได้แก่ ชื่อหรือรหัสสำหรับการใช้บริการ (Username) รหัสผ่านสำหรับการใช้บริการ (Password) ข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหา สถิติการเข้าดู ระยะเวลาการใช้งานผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน เวลาที่คลิกครั้งสุดท้าย (Timestamp of last click) รายการโปรด ข้อมูลถามตอบ ข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ (Log File) ข้อมูลการสื่อสาร ข้อมูลจากการติดต่อผ่านโทรศัพท์ ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ สื่อสังคมออนไลน์ ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ทั้งในรูปแบบ เทปบันทึกเสียงหรือบันทึกการทำรายการ ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหว
(5) ข้อมูลทางเทคนิค ได้แก่ หมายเลขอินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP Address) ล็อก (Log)รหัสอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทและเวอร์ชันของปลั๊กอิน เบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มระบบอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ข้อมูลการตั้งค่าในอุปกรณ์ และข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการของธนาคาร
(6) ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรม ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจ หรือความชื่นชอบส่วนตัว ลักษณะการใช้บริการ และข้อมูลที่ได้รับจากการใช้บริการ
1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว ซึ่งธนาคารต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนจึงจะเก็บรวบรวมได้ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ประวัติอาชญากรรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลประกาศกำหนด
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน